ข่าวประชาสัมพันธ์วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2568

การลงทุนอัจฉริยะด้านสภาพภูมิอากาศ: กุญแจสำคัญของไทยสู่การก้าวขึ้นเป็นประเทศรายได้สูง

3 ตุลาคม 2568, กรุงเทพฯ – ประเทศไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น แต่การพัฒนาอย่างชาญฉลาดสามารถเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ให้กับประเทศไทยได้  รายงาน Country Climate and Development Report (CCDR) ฉบับล่าสุดของธนาคารโลกระบุว่าการลงทุนอย่างทันท่วงที ทั้งในด้านการปรับตัวรับผลกระทบจากสภาพอากาศสุดขั้ว การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์สีเขียวจะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุความมุ่งมั่นในการก้าวสู่การเป็นสังคมที่มีรายได้สูงอย่างถ้วนหน้าและยั่งยืน

ภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม อากาศร้อนจัด การขาดแคลนน้ำ และการกัดเซาะชายฝั่ง อาจทำให้ GDP ของประเทศไทยลดลงร้อยละ 7–14 ภายในปี พ.ศ. 2593 หากยังไม่มีมาตรการปรับตัวอย่างจริงจัง    แต่ในทางกลับกัน มาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานและการขนส่งทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงทางพลังงานมากขึ้น มีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้น และมีขีดความสามารถด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงขึ้น รายงานนี้ยังระบุด้วยว่า กลไกในการกำหนดราคาคาร์บอนควบคู่ไปกับการลงทุนจะทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608

ความต้องการเทคโนโลยีสีเขียวที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจะเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับประเทศไทย โดยปัจจุบันไทยเป็นผู้นำด้านการส่งออกเครื่องปรับอากาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งออกแผงโซลาร์เซลล์ราวร้อยละ 4 ของตลาดโลก รวมทั้งกำลังเติบโตเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์สีเขียวกลับมีสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 10 ของการส่งออกทั้งหมด ทั้งนี้ การลดอุปสรรคในการเข้าถึงตลาด การลดภาษีนำเข้าและเงินอุดหนุนที่บิดเบือนตลาด การพัฒนาทักษะแรงงาน และการสนับสนุนนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีในประเทศจะช่วยเพิ่มการส่งออกผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Export) ได้อีกร้อยละ 2–3 ของ GDP ภายในปี พ.ศ. 2573

“ความสามารถทางการแข่งขันของไทยในอนาคตนั้น ขึ้นอยู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนไปสู่การผลิตสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ การสร้างงานที่มีคุณภาพ และทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในโลกคาร์บอนต่ำ” นางเมลินดา กู้ด ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทยและเมียนมา กล่าว “นี่เป็นวาระที่ธนาคารโลกกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลและพันธมิตรผ่านโครงการ Building Thailand’s Future Today ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเตรียมความพร้อมก่อนจะถึงการประชุมใหญ่ประจำปีของ IMF–World Bank Group ปีพ.ศ. 2569 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ”

ประเทศไทยติดหนึ่งในสิบประเทศที่มีความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วมมากที่สุดในโลก โดยลุ่มน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรกว่าร้อยละ 40 และสร้าง GDP ถึงร้อยละ 66 มีความเปราะบางเป็นพิเศษ การขาดแคลนน้ำในพื้นที่เกษตรและเขตอุตสาหกรรมสำคัญ รวมถึงเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะรุนแรงยิ่งขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  นอกจากนี้ การกัดเซาะชายฝั่งส่งผลกระทบกว่าร้อยละ 30 ของพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในช่วงกลางทศวรรษ 2040 นอกจากนี้ อากาศร้อนจัดอาจลดประสิทธิภาพแรงงานในหลายภาคส่วนที่สำคัญลงอย่างมากด้วย

“การลงทุนในเรื่องการลดผลกระทบจากน้ำท่วม ความมั่นคงด้านน้ำ การปกป้องชายฝั่ง เกษตรกรรมอัจฉริยะด้านสภาพภูมิอากาศ และการลดความร้อนจะสามารถเพิ่ม GDP ได้ร้อยละ 2–3 ต่อปีภายในปีพ.ศ. 2583 และร้อยละ 4–5 ต่อปีภายในปีพ.ศ. 2593 เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ รวมทั้งยังช่วยปกป้องประชาชนและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ทั้งนี้ การยกระดับการคุ้มครองทางสังคมถือเป็นกุญแจสำคัญเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศให้กับกลุ่มที่เปราะบางที่สุด และยังช่วยตอบสนองความต้องการของพวกเขาหลังเกิดภัยพิบัติด้วย” นายคิม อลัน เอดเวิร์ด นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสและผู้เขียนรายงานฉบับนี้กล่าว

ประเทศไทยจะต้องใช้เงินลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศตลอด 25 ปีข้างหน้าเป็นจำนวน 219 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.4 ของ GDP สะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านการปรับตัวและการลดการปล่อยก๊าซ   แม้เงินลงทุนจะค่อนข้างสูง แต่รายงาน CCDR ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถทำได้ผ่านกลไกการกำหนดราคาคาร์บอน ควบคู่ไปกับการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ และการระดมทุนจากภาคเอกชน

เกี่ยวกับรายงาน Country Climate and Development Reports (CCDR)
กลุ่มธนาคารโลกได้จัดทำรายงาน Country Climate and Development Reports (CCDR) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือหลักในการบูรณาการเรื่องสภาพภูมิอากาศและการพัฒนา รายงาน CCDR ช่วยให้แต่ละประเทศสามารถระบุและจัดลำดับความสำคัญของมาตรการเพื่อตอบสนองความต้องการในการปรับตัวและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาในภาพกว้าง  รายงานฉบับนี้ประกอบด้วยข้อมูล งานวิจัย การประเมินต้นทุน และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นประเทศที่ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสังคมคาร์บอนต่ำ  รายงานนี้จัดทำเพื่อเป็นแนวทางแก่รัฐบาล ภาคประชาชน ภาคเอกชน พันธมิตร รวมถึงการมีส่วนร่วมของกลุ่มธนาคารโลกในการเพิ่มการระดมทุนให้การดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศมีประสิทธิภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ ที่: 2026/022/EAP

รายชื่อผู้ติดต่อ

ในกรุงเทพฯ
ขนิษฐา คงรักเกียรติยศ
+668-1846-1246

บล็อก

    loader image

เรื่องราวใหม่ๆ

    loader image