13 กันยายน 2553
ความเป็นมา
สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติจะเปิดประชุมวาระพิเศษในระหว่างวันที่ 20-22กันยายนนี้ ณ กรุงนิวยอร์ก เพื่อทบทวนความคืบหน้าของนานาประเทศในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals- MDGs) ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกและพันธมิตรในการพัฒนาทั้งหลายดำเนินมาตรการเพื่อลดความยากจนและความหิวโหย รวมทั้งปรับปรุงสวัสดิการทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชากรที่ยากจนของโลกให้ดีขึ้นอย่างชัดเจนภายในปี 2558
ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์อันเนื่องมาจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้น อีกทั้งวิกฤติการเงินของโลกซึ่งเริ่มต้นขึ้นในภูมิภาคยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้น ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ได้มีประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในการบรรเทาปัญหาความยากจน โดยในปี 2524 ร้อยละ 52 ของประชากรในประเทศกำลังพัฒนามีชีวิตท่ามกลางความยากจนข้นแค้น แต่ใน พ.ศ. 2548 สัดส่วนของประชากรที่ตกอยู่ในสภาพดังกล่าวต่อประชากรโลกได้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 25 และลดลงอย่างเห็นได้ชัดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ลาตินอเมริกา ยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง กระนั้นก็ดี ใช่ว่าประชากรโลกทุกคนจะได้รับอานิสงส์จากความก้าวหน้านี้ หลายประเทศทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่าในทวีปแอฟริกายังคงไม่สามารถต่อกรกับปัญหาความยากจนได้ดีเท่าภูมิภาคอื่น แม้ว่าอัตราความหิวโหยและภาวะทุพโภชนาการในภูมิภาคนี้จะลดลงโดยรวม แต่ก็ยังไม่เร็วพอที่จะบรรลุเป้าหมายของการขจัดความหิวโหยให้หมดสิ้นภายในปี พ.ศ. 2558 ได้
ธนาคารโลกได้ทำการประเมินไว้ว่า วิกฤติราคาอาหารและเชื้อเพลิง รวมถึงวิกฤติการเงินของโลกที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้มีประชากรในโลกที่มีชีวิตในสภาพยากจนแร้นแค้นที่สุด (หมายถึงรายได้ต่ำกว่า 1.25 เหรียญสหรัฐฯต่อวัน) เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนสุงถึง 64 ล้านคนในปีนี้ และประชากรอีก 40 ล้านคนต้องเผชิญกับความอดอยากหิวโหย ในอีก 5 ปีข้างหน้า จำนวนเด็กที่อาจจะเสียชีวิตก่อนอายุถึง 5 ขวบนั้นน่าจะเพิ่มขึ้นอีกถึง 1.2 ล้านคน นอกจากนี้ จำนวนประชากรที่ไม่มีน้ำสะอาดใช้นั้นอาจเพิ่มขึ้นอีกถึง 100 ล้านคนทีเดียว
ธนาคารโลกมีส่วนช่วยอย่างไร
กลุ่มธนาคารโลกมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะช่วยนานาประเทศให้ดำเนินการสู่เป้าหมาย MDGs ได้สำเร็จผ่านการให้เงินกู้สนับสนุนโครงการต่าง ๆ โดยธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะฟื้นฟูและพัฒนา (IBRD) และสมาพันธ์เพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (IDA) เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าตัว จากห้าหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2550-2551 เป็นหนึ่งแสนหกพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2552-2553
- IDA ซึ่งเป็นกองทุนที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ยากจนที่สุด ได้มีส่วนช่วยประเทศสมาชิกให้สามารถสร้างหลักประกันแก่ประชากรของตนในเรื่องการเข้าถึงบริการพื้นฐานที่จำเป็น ได้แก่
- การศึกษา – ครูจำนวนมากกว่า 3 ล้านคนได้รับการว่าจ้างและ/หรือได้รับการฝึกอบรม มีการสร้างหรือบูรณะห้องเรียนมากกว่า 2 ล้านห้อง ซึ่งยังประโยชน์ให้แก่เด็กมากกว่า 105 ล้านคนต่อปี และมีการจัดซื้อและ/หรือแจกจ่ายหนังสือเรียนให้แก่เด็กประมาณ 300 ล้านเหรียญฯ
- สาธารณสุข – ประชากรอีกกว่า 47 ล้านคนทั่วโลกมีโอกาสเข้าถึงบริการพื้นฐานด้านสาธารณสุข โภชนาการหรือบริการทางประชากรอื่นๆ หญิงมีครรภ์ 2.5 ล้านคนได้รับบริการผดุงครรภ์ระหว่างการเยี่ยมตรวจในพื้นที่ เด็ก 310 ล้านคนได้รับวัคซีนคุ้มกันโรค เด็ก 98 ล้านคนได้รับโภชนาการที่ดีขึ้น และเด็กและผู้ใหญ่ประมาณ 2 ล้านคนที่ติดเชื้อ HIV ได้รับการบำบัด มีการจัดซื้อและ/หรือแจกจ่ายถุงยางอนามัย 813 ล้านชิ้น มีการสร้างสถานีอนามัยใหม่ รวมทั้งปรับปรุงสถานีอนามัยเดิม และ/หรือจัดหาอุปกรณ์เครื่องใช้ให้แก่สถานีอนามัยทั้งสิ้น 23,000 แห่ง บุคลากรทางสาธารณสุข 1.8 ล้านคนได้รับการฝึกอบรมเพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการ อีกทั้งมีการจัดซื้อและ/หรือแจกจ่ายมุ้งสำหรับกันยุ้ง 33 ล้านหลังเพื่อป้องกันมาเลเรีย
- แหล่งน้ำสะอาดและสุขาภิบาล – ประชากรอีกกว่า 113 ล้านคนได้เข้าถึงแหล่งน้ำดื่มที่สะอาด มีการสร้างหรือบูรณะบ่อน้ำชุมชนเกือบ 500,000 บ่อ คน 5.8 ล้านคนมีโอกาสใช้ส้วมที่ถูกสุขลักษณะเกือบ 600,000 แห่งที่ได้รับการปรับปรุงและมีการสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องผลิตน้ำ
- ในการประชุมสุดยอด MDGs กลุ่มธนาคารโลกมีแผนการที่จะปฏิญาณว่า จะให้เงินสนับสนุนการลงทุนเพื่อบริการส่งเสริมสาธารณสุข การศึกษา และการเกษตรก้อนใหญ่ก้อนใหม่ เพื่อช่วยให้ประเทศต่างๆ สามารถบรรลุเป้าหมาย MDGs ของประเทศภายในปี 2558
- ในด้านสุขภาพ เราจะมุ่งความช่วยเหลือไปยัง 35 ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และประเทศทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่าในทวีปแอฟริกาที่เผชิญอุปสรรคในการดำเนินการตามเป้าหมาย MDGs เนื่องมาจากอัตราการเจริญพันธุ์ที่สูง ภาวะการขาดโภชนาการของเด็กและมารดา รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บ เราจะขยายโครงการที่ยึดผลสัมฤทธิ์เป็นพื้นฐานของเราให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อขยายบริการที่จำเป็นด้านสาธาณสุขและโภชนาการ รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำให้สุขภาพของประชากรทั่วไปที่ดีขึ้นแล้วนั้นดีต่อไปในอนาคต
- ในการช่วยให้ประเทศต่างๆ บรรลุเป้าหมาย MDGS ทางการศึกษา ธนาคารโลกจะเพิ่มความช่วยเหลือในรูปแบบของเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยและเงินให้เปล่าสำหรับการลงทุนในการศึกษาพื้นฐานขึ้นอีก 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเน้นประเทศที่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรในการดำเนินการตามเป้าหมาย MDGs ว่าด้วยการศึกษาให้ได้ภายในปี 2558 โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่าในทวีปแอฟริกา
- ภายใต้แผนปฏิบัติการทางการเกษตร กลุ่มธนาคารโลกจะทวีความช่วยเหลือทางการเกษตรขึ้นอีกประมาณ 8,300 ล้านเหรียญสหรัฐโดยเพิ่มจาก 4,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปีก่อนปี 2551